วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

งานแปล นิยายเรื่อง "Robinson Crusoe"

Robinson Crusoe
(First)
การเดินทางทางทะเลครั้งแรกของผม
                ก่อนที่จะเริ่มกล่าวถึงเรื่องของผม ผมอยากจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผมสักเล็กน้อย
                ผมเกิดในปี 1632 ในเมืองนิวยอร์ก ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ พ่อของผมเป็นชาวเยอรมัน แต่มาอาศัยและทำงานในประเทศอังกฤษ และหลังจากนั้นไม่นานพ่อและแม่ของผมก็แต่งงานกัน แม่ของผมเป็นชาวอังกฤษ สกุลของครอบครัวแม่คือ Robinson ดังนั้น เมื่อผมเกิดมา พวกเขาจึงเรียกผมว่า Robinson ตามแม่ของผมด้วย
                พ่อของผมทำธุรกิจที่ดี ผมจึงได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ดี พ่อต้องการให้ผมได้ทำงานที่ดี มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย แต่ผมไม่ต้องการเช่นนั้น ผมต้องการการผจญภัยและใช้ชีวิตแบบน่าตื่นเต้น
                ผมต้องการเป็นทหารเรือและไปในทะเลผมบอกแม่และพ่อของผม พวกเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มาก
                อย่าไปเลยนะพ่อผมพูด ลูกจะไม่มีความสุขเลย ลูกก็รู้ ทหารเรือมีชีวิตที่ลำบากและอันตรายเพราะว่าพ่อรักผม และคิดว่าผมคงไม่มีความสุข พ่อพยายามที่จะลืมเรื่องนี้ให้ได้
                แต่ผมไม่สามารถลืมได้ และประมาณ 1 ปีต่อมา ผมได้พบกับเพื่อนคนหนึ่งในนิวยอร์ก พ่อของเขามีเรือ และเพื่อนของผมพูดกับผมว่า พวกเราจะล่องเรือไปลอนดอนในวันพรุ่งนี้ ทำไมคุณถึงไม่ไปกับพวกเรา
                หลังจากนั้น ในวันที่ 1 เดือน กันยายน ปี 1651 ผมได้เดินทางไปฮอลล์ (Hull) และในวันรุ่งขึ้น พวกเราก็ได้เดินทางไปลอนดอน

Learning log (First: 7th August, 2015)

Learning log
(First:  7th August, 2015)
การเรียนรู้มี 2 แบบ คือ
          1.             English – learning – conscious คือ การเรียนรู้โดยการรู้ตัว
          2.             English – acquisitions – subconscious (natural learning) คือ การเรียนรู้โดยธรรมชาติ หรือ โดยอัตโนมัติ *ซึ่งทุกคนจำเป็นต้องมีการเรียนรู้แบบนี้
กาล
                ประโยคภาษาอังกฤษจะมีคำกริยาบอกการกระทำให้ทราบว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เกิดขึ้นแล้วหรือจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้วในอดีตและยังคงกำลังดำเนินอยู่ต่อไปในปัจจุบัน ซึ่งจะแตกต่างกับคำกริยาในภาษาไทย เพราะคำกริยาในภาษาไทยไม่บอกกาล แต่อาจดูเวลาของการกระทำได้จากคำขยายกริยา จึงส่งผลให้การแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย มักจะมีปัญหาเรื่องเวลา คือ ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้กาลต่างกัน อาจแปลเป็นภาษาไทยได้เหมือนกัน

Learning log (29th October, 2015 - 30th October, 2015 )

Learning log
(29th October, 2015 - 30th  October, 2015  )
"สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ"
                การเข้าอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 29 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2558 เกี่ยวกับการเสวนาวิชาการงานวิจัย ในหัวข้อเรื่อง “Beyond Language Learning” โดย ดร.สุจินต์ หนูแก้ว, อาจารย์สุนทร บุญแก้วและ ผศ.ดร.ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล เป็นช่วงเริ่มแรกของการอบรม ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจและมีประโยชน์สำหรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก หลายๆท่านที่เข้าอบรมรวมทั้งดิฉันด้วยก็เกิดความสงสัยว่าการเสวนาในครั้งนี้จะออกมาในรูปแบบใด และมีเนื้อที่น่าสนใจและง่ายเข้าใจต่อการเข้าใจมากน้อยเพียงใด มีรูปแบบที่ตรงประเด็นหรือไม่ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมการอบรมก็มีความพร้อมที่จะรับความรู้และแนวคิดต่างๆจากท่านวิทยากรทุกท่านเป็นอย่างดี

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน (20th October, 2015)

การฝึกทักษะการฟัง
(20th October, 2015)
จากการฝึกทักษะการเขียนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันเกิดการเรียนรู้ต่างๆมากมาย รวมทั้งพัฒนาทักษะการเขียนไปได้เป็นอย่างมาก แต่การพัฒนาทักษะการเขียนเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในทุกๆทักษะสำหรับตัวดิฉัน เพราะการที่เราสามารถสร้างงานเขียนที่ดีและมีประสิทธิภาพได้นั้น เราจะต้องมีทั้งทักษะ การฟัง การพูด และการอ่านที่ดีและคล่องคล่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการพัฒนาการเขียนให้ถูกต้องและมีคุณภาพทั้งสิ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ฝึกทักษะการเขียนจากการเขียนกิจวัตรประจำวันของน้องชายของดิฉัน ซึ่งน้องชายของดิฉันอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เขามีกิจวัตรประจำวันในวันหนึ่งที่เขาเล่าให้ดิฉันฟัง การฝึกเขียนในครั้งนี้ดิฉันได้เรียนรู้หลักการใช้ไวยากรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นการนำมาใช้ในประโยคอย่างจริงๆ ต่อมาดิฉันฝึกทักษะการเขียนจากการอ่านสรุปความนิทานเรื่อง The Lion and the Mouse (สิงโตกับหนู) จากหนังสือ นิทานฉบับภาษาไทย และดิฉันฝึกทักษะการเขียนจากการอ่านเรื่องสั้นที่เป็นภาษาไทยในหนังสือเรียนของน้องดิฉัน ซึ่งเป็นเนื้อหาที่คุณครูของเขาให้ฝึกอ่านภาษาไทย ดิฉันจึงนำมาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เรื่อง เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันหลังจากงานเลี้ยง ฉะนั้นในสัปดาห์นี้ดิฉันจะต้องฝึกในเรื่องของทักษะการฟังจากสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการฟังในครั้งที่สอง การฟังนั้นก็มีความสำคัญมากเช่นกัน จำเป็นที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้มีทักษะการฟังที่ดีขึ้น การฟังในเรื่องใดๆก็แล้วแต่ถ้าหากเราไม่มีทักษะในการฟังที่ดีเราก็ไม่สามารถฟังเรื่องเหล่านั้นได้ถูกต้องได้เช่นกัน บางครั้งการฟังที่ไม่มีประสิทธิภาพก็ก่อให้เกิดการสนทนาที่ไม่ประสบผลสำเร็จ หรือแม้ว่าฟังในเรื่องทั่วๆไปก็จะไม่เกิดผล และที่สำคัญในเรื่องของการศึกษาซึ่งการฟังในเนื้อหาหรือบทเรียนต่างๆเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะถ้าหากเราฟังสิ่งเหล่านั้นไม่เข้าใจเราก็ไม่สามารถทำตามที่อาจารย์หรือผู้อื่นบอกได้ ดังนั้น ดิฉันฝึกทักษะการฟังในวันอังคารที่ 20 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2558 – วันจันทร์ที่ 26 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2558

Learning log (Adverb Clause of Time) Ninth : (20th October,2015)

Learning log
Adverb Clause of Time
Ninth : (20th October,2015)
                            การศึกษาหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นมากในทุกๆวันนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยพัฒนาผู้ศึกษาและผู้เรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านทักษะต่างๆที่จำเป็นต่อการเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับหลักไวยากรณ์เป็นส่วนใหญ่ หรืออาจกล่าวได้ว่าทั้งหมดก็เป็นไปได้ และไม่ใช่เพียงแค่ช่วยพัฒนา ทักษะการพูด การฟัง  การอ่านและการเขียน ของเราเพียงอย่างเดียว แต่การรู้และมีความชำนาญในการใช้หลักไวยากรณ์อย่างถูกต้องก็สามารถเพิ่มพูนความรู้ของเรา สามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนภาษาอังกฤษได้ในทุกๆรูปแบบและใช้ได้จริงในทุกๆสถานการณ์ที่เราประสบพบเจอ อีกสำคัญประการหนึ่งคือ การแปลความหมายของประโยคภาษาอังกฤษ ให้เป็นภาษาไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนไทยที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่แบบ จึงจำเป็นต้องแม่นยำและเข้าใจเกี่ยวกับหลักไวยากรณ์เป็นอย่างมากเช่นกัน เพราะการแปลจะต้องให้ถูกต้องตามหลักการและความหมายที่ถูกต้องตามประโยคภาษาอังกฤษ  จึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้การแปลที่ถูกต้องตามหลักการและประโยคต้นแบบที่แปลมาอย่างมีประสิทธิภาพ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง Noun Clause ซึ่งหน้าที่ (Function) ของ Noun Clause คือ Noun Clause เมื่อนำมาใช้อย่างคำนาม หรือเหมือนเป็นคำนาม ก็จะมีหน้าที่เช่นเดียวกับคำนามทั่วๆไป คือ เป็นประธาน (Subject) ของกริยา, เป็นกรรม (Object) ของกริยา, เป็นกรรม (Object) ของบุรพบท (Preposition), เป็นส่วนสมบูรณ์ (Complement) ของกริยา และ เป็นคำซ้อนของคำนามตัวอื่นได้ (Appositive) และในที่นี้ดิฉันก็ได้เรียนรู้ในห้องเรียนเกี่ยวกับเรื่อง Adverb Clause of Time ดิฉันจึงต้องการศึกษาเพิ่มเติมจากที่ได้เรียนมาในห้องเรียน เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

การศึกษานอกห้องเรียน (13th October, 2015)

การฝึกทักษะการเขียน
(13th October, 2015)
            การฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้รับความรู้ต่างๆมากมาย รวมทั้งเป็นการพัฒนาทักษะการอ่านของดิฉันไปอย่างมากเช่นกัน แต่การอ่านในเรื่องใดๆก็แล้วแต่ เราจะต้องใช้เวลาในการอ่าน การแปลความหมาย การฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง รวมทั้งการทำความเข้าใจในเนื้อหาเป็นอย่างดี จึงจะรู้และเข้าใจในเรื่องที่อ่านได้ ซึ่งดิฉันได้พัฒนาทักษะการอ่านจากการสื่อต่างๆคือ ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากการอ่านบทความภาษาอังกฤษ เรื่อง Advanced technology ต่อด้วยฝึกทักษะการอ่านจากบทความภาษาอังกฤษ เรื่อง The Greenhouse Effect ครั้งสุดท้ายของสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันฝึกทักษะการอ่านจากการอ่านนิทานภาษาอังกฤษ เรื่อง The Princess and the Pea ซึ่งสื่อทั้งหมดดังกล่าวที่ดิฉันใช้สำหรับฝึกทักษะการอ่านมีความน่าสนใจ และง่ายต่อการเข้าใจในการอ่านทำความเข้าใจและสรุปความหมาย ดิฉันใช้รูปแบบการฝึกคล้ายๆกับครั้งอื่นๆที่ผ่านมา คือ การฝึกในครั้งแรก ดิฉันจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับสื่อต่างๆก่อนและเริ่มฝึกการอ่านทำความเข้าใจและสรุปความหมายจากสื่อนั้นๆ จากนั้นในวันต่อไปก็นำเรื่องที่ฝึกมาทบทวนการอ่านทำความเข้าใจและสรุปความหมายอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นการฝึกทักษะการอ่านครั้งที่ 2 ที่ดิฉันได้ฝึกมา ฉะนั้นในสัปดาห์นี้ดิฉันจะฝึกทักษะการเขียน ซึ่งเป็นทักษะที่ยากที่สุดในทุกๆทักษะที่ฝึกมา รวมทั้งมีความสำคัญมากเช่นกัน ซึ่งการเขียน คือการสื่อสารชนิดหนึ่งของมนุษย์เราที่ต้องอาศัยความพยายามและฝึกฝน การเขียนเป็นการแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึก ความต้องการ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ผู้รับสารสามารถอ่านได้เข้าใจ ได้ทราบความรู้ ความคิด ความรู้สึก ความต้องการ แล้วสามารถนำมาบอกต่อกับบุคคลอื่นให้ได้ความรู้ที่ผู้รับสารได้รับ ฉะนั้นการเขียนที่ดีจะต้องเกิดจากความคิดที่ดีและมีเหตุผล รวมทั้งมีความชำนาญทางด้านไวยากรณ์ในการแต่งประโยค อีกทั้งการใช้คำที่สละสลวยในงานเขียนของเราด้วย ดิฉันได้ฝึกทักการเขียนในวันอังคารที่ 13 เดือนตุลาคม พ.ศ.2558 – วันจันทร์ที่ 19 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2558

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน (6th October, 2015)

การฝึกทักษะการอ่าน
(6th October, 2015)
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันใช้สื่อต่างๆในการพัฒนาทักษะการพูด ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากเช่นกัน ดิฉันได้ใช้สื่อต่างๆ ดังนี้ ครั้งแรกดิฉันฝึกทักษะการพูดจากวีดีโอ เรื่อง How to improve your English speaking skills จากนั้น ดิฉันได้ฝึกทักษะการพูดจาก บทสนทนา เรื่อง English Conversation Learn English Speaking English Subtitles และตามด้วยฝึกทักษะการพูดจากการดูบทสนทนา เรื่อง English Conversation 06 ซึ่งสื่อทั้งหมดดังกล่าวที่ดิฉันใช้สำหรับฝึกทักษะการพูด มีความน่าสนใจ และง่ายต่อการเข้าใจและการฝึกพูดตาม ดิฉันใช้รูปแบบการฝึกคล้ายๆกับครั้งอื่นๆที่ผ่านมา คือ การฝึกในครั้งแรก ดิฉันจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับสื่อต่างๆก่อนและเริ่มฝึกการพูดจากสื่อนั้นๆ จากนั้นในวันต่อไปก็นำเรื่องที่ฝึกมาทบทวนและฝึกทักษะการพูดอีกครั้ง  ซึ่งก็เป็นการฝึกทักษะการพูดครั้งที่ 2 ที่ดิฉันได้ฝึกมา ฉะนั้นในครั้งนี้ก็จะเป็นการฝึกทักษะการอ่าน ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากเช่นกัน สำหรับตัวดิฉันเองมีปัญหาเรื่องการอ่านมาก ดิฉันยังไม่สามารถอ่านบทความหรืองานเขียนต่างๆ ได้อย่างเข้าใจ และตีความหรือสรุปใจความสำคัญของเรื่องต่างๆที่อ่านได้พอสมควร ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ฝึกทักษะการพูดไปแล้ว จึงต้องต่อเนื่องด้วยการฝึกทักษะการอ่าน เพราะทักษะทั้งสองจะมีความสัมพันธ์กัน และเมื่อดิฉันเริ่มมีทักษะในการพูดมาพอสมควรแล้ว ก็สามารถเป็นพื้นฐานในการอ่านได้มากพอสมควร แต่การฝึกทักษะการอ่านนั้น จะมีความยากมากกว่าการพูด เพราะการอ่านในเรื่องใดๆก็แล้วแต่ เราจะต้องใช้เวลาในการอ่าน การแปลความหมาย การฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง รวมทั้งการทำความเข้าใจในเนื้อหาเป็นอย่างดี จึงจะรู้และเข้าใจในเรื่องที่อ่าน และสามารถอ่านได้คล่องแคล่ว ไม่ติดขัด ดิฉันจะฝึกทักษะการอ่านตั้งแต่ วันอังคารที่ 6 เดือนตุลาคม พ.ศ.2558 – วันจันทร์ที่ 12 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2558