วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน (วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2558)

                                                 การฝึกทักษะการฟัง

การศึกษาในปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด ชาติใด ศาสนาใด ก็จำเป็นต้องได้รับการศึกษาก่อน บุคคลเหล่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จและดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข แต่ในการศึกษาดังกล่าวกว่าที่ผู้เรียนจะประสบความสำเร็จนั้นต้องผ่านการฝึกฝน ผ่านการเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง รวมทั้งการทดสอบต่างๆและการนำไปประยุกต์ใช้ด้วย ในการเรียนทุกประเภทและทุกระดับจะต้องมีการฝึกฝนให้ผู้เรียนเกิดความชำนาญในด้านทักษะต่างๆ อย่างชัดเจน ทั้งทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ซึ่งการเรียนการสอนในทุกๆรายวิชาจะต้องมีการสอนให้นักเรียนเข้าใจและมีความชำนาญในด้านทักษะต่างๆเหล่านี้ โดยเฉพาะการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ การฝึกทักษะต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่แบบของคนไทย จึงเกิดความยากในการเรียนรู้และการทำความเข้าใจ ฉะนั้นผู้เรียนจึงต้องมีการฝึกทักษะเหล่านี้เพื่อให้สามารถเรียนภาษาอังได้อย่างเข้าใจ ซึ่งสำหรับดิฉันแล้ว ดิฉันยังไม่มีความชำนาญในทักษะทั้งสี่ด้านเหล่านี้มากพอสมควร ดิฉันจึงต้องการฝึกฝนอย่างจิงจัง โดยสัปดาห์นี้ดิฉันจะฝึกเกี่ยวกับทักษะการฟังเป็นลำดับแรก เนื่องจากดิฉันฟังภาษาอังกฤษไม่ค่อยเข้าใจ ตั้งแต่วันที่ 18-24 สิงหาคม พ.ศ.2558
วันอังคารที่ 18 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากวีดิโอใน YouTube จาก  https://www.youtube.com/watch?v=Pu1zdTrcCT4  เรื่อง Improve your conversation skills with WH questions ผู้สอนมีชื่อว่า Ronnie ซึ่งเป็นการสอนเกี่ยวกับ การใช้ประโยคคำถามจาก Wh-Question ในการสนทนา เหตุผลที่ดิฉันเลือกฟังวีดิโอนี้ ก็เพราะผู้สอนมีวิธีการพูดที่เข้าใจง่าย เป็นสำเนียงการพูดที่ฟังง่ายและเข้าใจง่าย มีการ stress คำ คืออ่านเน้นเสียงคำ ทำให้ผู้ฟังรับรู้ได้ว่าการพูดประโยคคำถามที่ใช้ Wh-Question จะต้องมีการเน้นคำสุดท้ายของประโยคเหล่านั้น ก็คือการออกเสียงสูงในคำๆนั้นนั่นเอง ดิฉันคิดว่าดิฉันได้รับประโยชน์ในการฟังวีดิโอชิ้นนี้เป็นอย่างมาก เพราะดิฉันสามารถฟังการสอนของผู้สอนได้อย่างเข้าใจ และสามารถตอบได้ว่าหลักการใช้ Wh-Question ในประโยคคำถามนั้นมีหลักการใช้อย่างไร และผู้สอนใช้ขั้นการสอนอย่างไร โดยที่ดิฉันไม่ได้อาศัยความรู้เดิมในการทำความเข้าใจแต่จะใช้การฟังในขณะนั้นทั้งหมด ในการทำความเข้าใจแทน
วันพุธที่ 19 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากเพลง Shake It Off  ของศิลปินที่มีชื่อว่า Taylor Swift  เหตุผลที่ดิฉันเลือกฟังเพลงนี้ เพราะว่า อันดับแรกเลยคือ ชอบเพลงนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะเป็นเพลงที่สนุกสนาน ทั้งดนตรี และภาพประกอบที่ดูแล้วรู้สึกเพลิดเพลินไปด้วย ในการฟังครั้งแรก ดิฉันจะใช้วีดิโอที่มีเนื้อเพลงประกอบอยู่ด้านล่างด้วย จำนวน 2 ครั้ง ต่อจากนั้นดิฉันก็ฟังเพลงนี้อีกหลายๆครั้งจากวีดิโอเพลงที่ไม่มีเนื้อเพลงประกอบ เพื่อเป็นการทดสอบความจำจากทักษะการฟังของตัวดิฉันเอง หลังจากนั้นเมื่อกลับมาฟังเพลงนี้โดยที่ไม่มีเนื้อหาประกอบ ปรากฏว่า ดิฉันสามารถร้องตามได้แค่ครึ่งเพลงในตอนแรก ดิฉันก็ฝึกฟังไปเรื่อยๆ เพราะต่อไปถ้าไปได้ยินเพลงนี้จากที่อื่นๆก็สามารถรู้ และมีความเข้าใจและจำในเรื่องของคำศัพท์ได้ถูกต้อง จากการฟังในหลายๆรอบทำให้รู้ว่าเนื้อเพลงมีลักษณะที่เศร้า ผู้หญิงภายในเพลงเป็นคนที่ไม่สมหวังในความรัก แต่เป็นเพราะจังหวะดนตรีและท่าทางประกอบที่ใช้ในเพลงดึงดูดให้ผู้ฟังสามารถฟังได้จนจบเพลง ดิฉันคิดว่าดิฉันได้รับประโยชน์ในการฟังเพลงนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นการฝึกความความจำเนื้อเพลงพร้อมกับทำความเข้าใจจากทักษะการฟัง
วันพฤหัสบดีที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 ดิฉันฝึกการฟังจากการฟังวีดิโอ เกี่ยวกับเรื่อง How to Remember Vocabulary จาก https://www.youtube.com/watch?v=JuoqE2lpRUM ผู้สอนชื่อว่า Ronnie เหตุผลที่เลือกวีดิโอนี้ เพราะว่าผู้สอนมีสำเนียงการพูดที่ฟังง่าย สอนสนุก และสอนเข้าใจเพราะดิฉันเคยฟังเกี่ยวกับการถามคำถามด้วย Wh-Question ในวันอังคารที่ผ่านมาแล้ว เนื้อหาของวีดิโอนี้ เกี่ยวกับ ทักษะหรือวิธีการในการจำคำศัพท์ ผู้สอนได้บอกไว้ว่าควรทำดังนี้ 1. Repeat, Repeat, Repeat... ก็คือ การพูดซ้ำๆ หลายรอบ 2. Poster/Sticky notes ก็คือ ทำเป็นป้ายใหญ่ๆ แล้วเขียนคำศัพท์ที่ต้องการรู้ไว้เป็นประจำ หรือทุกวันเพื่อเป็นการจดจำคำศัพท์ไปในตัว 3. วาดภาพเกี่ยวกับคำศัพท์เหล่านั้น เมื่อเห็นภาพก็สามารถรู้ได้ว่าภาพนั้นมีคำศัพท์ว่าอย่างไร 4. Make a sentence คือ การสร้างประโยคเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายและหน้าที่ของคำเหล่านั้น ดิฉันคิดว่าการจำคำศัพท์ในแต่ละวันอย่างน้อยต้องจำวันละ 10 คำ นั่นคือภายใน 1 สัปดาห์ เราจะมีคำศัพท์อยู่ในสมองถึง 70 คำ และจะต้องทำอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แล้วผู้เรียนก็จะกลายเป็นคนเก่งได้  
                วันศุกร์ที่ 21 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากการดูหนัง เรื่อง Maleficent ของผู้แต่งคือ ลินดา วูลเวอร์ตัน ซึ่งเป็นหนังประเภท การพจญภัยและการต่อสู้ เหตุผลที่ดิฉันเลือกดูเรื่องนี้ เพราะดิฉันชอบหนังที่ตื่นเต้น ผจญภัย และอิงนิยาย หนังเรื่องนี้ มีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นมาก ดึงดูดวามสนใจให้ดิฉันดูจบตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับการถูกหักหลังครั้งใหญ่เกี่ยวกับความรักที่ มาเลฟิเซนท์มีให้กับ สเตฟาน จึงเปลี่ยนจิตใจอันบริสุทธิ์ของเธอให้กลายเป็นดั่งหินและไฟ ผลักดันด้วยความเคียดแค้นและความปรารถนาที่จะปกป้องชาวมัวร์ภายใต้การปกครองของเธอ มาเลฟิเซนท์ได้ปลดปล่อยคำสาปไปสู่ทารกน้อยแรกเกิดของพระราชาสเตฟานที่มีชื่อว่า ออโรร่าเมื่อทารกน้อยเติบโตขึ้น ออโรร่าต้องตกอยู่ภายใต้ความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรต้นไม้ที่เธอเติบโตมาพร้อมความรักและอาณาจักรมนุษย์ที่สืบสานความยิ่งใหญ่ของตระกูลเธอ มาเลฟิเซนท์คิดว่าออโรร่าอาจจะเป็นกุญแจที่จะนำความสงบสุขมาสู่ดินแดน และถูกบังคับให้ต้องลงมือทำบางสิ่งที่จะเปลี่ยนโลกทั้งสองใบ ในช่วงแรก ดิฉันดูภาคภาษาอังกฤษ แต่มี subtitle เป็นภาษาไทย ก็มีความเข้าใจในเนื้อหาทั้งเรื่อง ภายหลังก็เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งหมด ซึ่งหนังเรื่องนี้มีประโยชน์ในการฝึกทักษะการฟังของดิฉันเป็นอย่างมาก
                วันเสาร์ที่ 22 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากการฟังเพลง ที่มีชื่อว่า One More Night ของศิลปิน maroon 5 เหตุผลที่ดิฉันเลือกฟังเพลงนี้เพราะ เพลงนี้มีจังหวะที่สนุก ตื่นเต้น ถึงแม้จะมีจังหวะการร้องที่เร็วมาก และชื่นชอบศิลปินวงนี้มาก ในตอนแรกดิฉันฟังโดยการดูเนื้อหาประกอบไปด้วยจำนวน 3 ครั้งก่อน และต่อจากนั้น ก็ฟังโดยไม่ดูเนื้อเพลงเลย โดยเปิดฟังหลายๆรอบ ฟังในขณะที่ทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ด้วย เพื่อเป็นการฝึกเป็นประจำๆ สามารถจดจำได้รวดเร็วขึ้นถึงแม้ว่าไม่ตลอดทั้งเพลง แต่ก็สามารถแปลได้ส่วนหนึ่งว่า เพลงนี้ก็เกี่ยวกับความรักเช่นกัน เป็นการทะเลาะกันของคนรัก และภายหลังก็มีการบอกรัก และการขอโทษ เนื่องจากเพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะที่เร็วพอสมควร จึงทำให้เกิดอุปสรรคในการฟัง บางช่วงบางตอนที่ช่วงจังหวะเร็วๆ ก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่บางช่วงบางตอนที่ไม่เร็วจนเกินไปดิฉันก็ฟังเข้าใจ ดิฉันสามารถค้นพบข้อบกพร่องของตัวเองจากการฟังเพลงนี้ คือ ดิฉันมีปัญหาในการฟังเพลงที่เร็วเกินไป ฉะนั้น ดิฉันจะต้องเริ่มฝึกทักษะการฟังจากเพลงที่มีจังหวะการไม่เร็วจนเกินไป แต่ในวันพุธที่ผ่านเพลงนั้นมีจังหวะที่เร็วเช่นกัน แต่เป็นเสียงร้องของผู้หญิงดิฉันสามารถเข้าใจได้มากกว่า
                วันอาทิตย์ที่ 23 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากการฟังเพลง ที่มีชื่อว่า Never Gonna Leave This Bed ของศิลปิน maroon 5 เหตุผลที่เลือกเพลงนี้เพราะชอบศิลปินวงนี้มาก และเมื่อวานนี้ที่ดิฉันฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ จึงเลือกเพลงนี้ เพราะมีจังหวะที่ไม่เร็วจนเกินไป สามารถฟังแล้วเข้าใจได้ง่ายมากกว่าเพลง One More Night เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความไพเราะมาก ดิฉันเริ่มฟังโดยการดูเนื้อเพลงควบคู่ไปด้วยในตอนแรกของการฝึก จำนวน 3 รอบ และหลังจากนั้นก็ฟังแต่เสียงเพียงอย่างเดียว ฟังในขณะที่ทำการบ้านและงานบ้านอื่นๆ อย่างเช่น กวาดขยะ ล้างจาน เป็นต้น ดิฉันคิดว่าการฝึกการฟัง โดยการเลือกฟังในสิ่งที่เราชอบด้วยตนเอง ไม่ใช่ฟังเพราะผู้อื่นบังคับ เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เพราะถ้าหากเราชอบในสิ่งที่เราฟัง ผลลัพธ์หรือสิ่งที่เราคาดหวังก็จะออกมาในทางที่ดีมาก เพราะเราจะใส่ใจและทำสิ่งนี้อย่างตั้งใจ อย่างที่ดิฉันฟังเพลงนี้ ดิฉันสามารถฟังอย่างเข้าใจและมีความสุขในการฟังเป็นอย่างมาก
สามารถเรียนรู้คำศัพท์ได้อย่างหลากหลายด้วย

               วันจันทร์ที่ 24 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังจากการฟังเพลง ที่มีชื่อว่า Everytime ของศิลปิน Britney Spears เหตุผลที่เลือกฟังเพลงนี้ สิ่งแรกคือ เพราะชอบศิลปินคนนี้เพราะเธอสวยมาก และมีน้ำเสียงที่ไพเราะ ดิฉันไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อได้เริ่มฟังก็รู้สึกชอบมาก เพลงนี้เป็นเพลงที่เศร้ามาก เพลงนี้เป็นความเสียใจขอฝผู้หญิงที่เขาอ้างถึงในเพลง มีการอ้อนวอนให้คนรักของเธอกลับมาหาเธอ Everytime ในที่นี้ผู้ร้องหมายถึง ทุกๆเวลาที่คิดถึงคนรักของเธอ ไม่มีเวลาใดไม่คิดถึง แม้แต่ในขณะที่เธอหลับ ผู้ชายคนนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอน ให้เธอโหยหาถึงในความฝันของเธอ ดิฉันฟังแล้วรู้ซึ้งมาก ในตอนแรกก็ฟังและดูเนื้อเพลงประกอบไปด้วยจำนวน 3 รอบ และหลังจากนั้นก็ฟังเฉพาะเสียงเพลงเพียงอย่างเดียว ดิฉันฟังเพลงนี้จำนวนหลายรอบมาก แม้แต่ในขณะนอนก็ฟัง ฟังก่อนนอนด้วย เพราะก่อนนอนถ้าหากเราฟังอะไรที่เราชอบมันจะทำให้เราหลับสบาย ปล่อยวางทุกสิ่งที่เครียดได้ ฉะนั้น การฝึกของดิฉันในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

                ในการฝึกฝนด้านทักษะการฟังของดิฉันในแต่ละวัน ตั้งแต่วันแรกคือการฟังวีดิโอ เรื่อง Improve your conversation skills with WH questions จากผู้สอนที่มีชื่อว่า Ronnie วันที่สอง คือ การฟังเพลง Shake It Off  ของศิลปิน Taylor Swift  วันที่สามจากการฟังวีดิโอ เกี่ยวกับเรื่อง How to Remember Vocabulary จากผู้สอนที่ชื่อว่า Ronnie วันที่สี่การดูหนัง เรื่อง Maleficent ของผู้แต่งคือ ลินดา วูลเวอร์ตัน วันที่ห้า คือ การฟังเพลง  One More Night ของศิลปิน maroon 5 วันที่หก คือการฟังจากเพลง Never Gonna Leave This Bed ของศิลปิน Maroon 5 และวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้คือ การฟังเพลง Everytime ของศิลปิน Britney Spears  ดิฉันคิดว่าการฝึกทักษะการฟังของดิฉันในสัปดาห์แรกไปเป็นด้วยดี ถึงแม้บางวันจะได้ไม่มากเต็มที่ แต่ดิฉันก็ถือว่าเป็นการฝึกฝนครั้งแรก และทำอย่างเต็มที่แล้ว ดิฉันก็ได้ประโยชน์จากการฝึกในครั้งนี้อย่างมากมาย ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และสิ่งที่ไม่เคยรู้ ก็ได้รู้เพิ่มมากขึ้น สามารถฟังสิ่งต่างๆได้อย่างเข้าใจมากขึ้น อย่างเช่นที่ดิฉันได้ฝึกการฟังจากเพลง ถึงแม้ว่าจะร้องตามไม่ได้หมดทั้งเพลง แต่เมื่อได้ยินเพลงนี้จากที่อื่นก็สามารถรู้ได้ว่าเป็นเพลงอะไร และเป็นการฝึกฟังคำศัพท์ด้วย รวมทั้งมีผลดีต่อการฟังสิ่งอื่นๆด้วยและที่สำคัญในการฝึกทักษะการฟังในสัปดาห์นี้ ประสบความสำเร็จเกินที่คาดหวังไว้ คือ นอกจากได้ฝึกการฟังแล้วยังได้ฝึกการพูด การอ่าน และการเขียนควบคู่ไปด้วย ทั้งอ่านเนื้อเรื่องในละคร ในเนื้อเพลง ฝึกพูด และฝึกเขียนตามวิดีโอ ซึ่งถือว่าได้ความรู้ควบคู่ไปด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น