การฝึกทักษะการอ่าน
(1st
September, 2015)
การฝึกทักษะต่างๆ
ทั้งทักษะ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากในการที่จะเรียนภาษาอังกฤษให้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้ฝึกทักษะการพูดมาแล้ว
ซึ่งจากการฝึกทักษะการพูดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดิฉันก็ได้ความรู้ทั้งในด้านของเนื้อหาของสื่อที่ดิฉันได้ฝึก และพัฒนาทางด้านทักษะการพูดได้เป็นอย่างมาก
ทำให้ดิฉันมีความกล้าในการที่จะพูด ซึ่งดิฉันได้ฝึกการพูดจากเนื้อหาและวีดิโอต่างๆ
คือ 5
เทคนิคการพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนกับเจ้าของภาษา,Spoken
English Learning Video Spoken English Tutorial English Conversation ,การฝึกพูดภาษาอังกฤษ, English Conversation- Learn English Speaking, English Conversation - Learn
English Speaking, Learn English Vocabulary 5,
จากเพลง I Have A Dreamและการพูดอังกฤษในการทำงาน
ดิฉันคิดว่าดิฉันได้รับความรู้และทักษะจากการฝึกในสัปดาห์ที่ผ่านมามากพอสมควร
สัปดาห์นี้ดิฉันจึงต้องการฝีกทักษะการอ่าน เพราะการอ่านและการพูดจะมีความความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันมาก
ในเมื่อดิฉันเริ่มมีทักษะในการพูดมาพอสมควรแล้ว
ก็สามารถเป็นพื้นฐานในการอ่านได้มากพอสมควร แต่การฝึกทักษะการอ่านนั้น
จะมีความยากมากกว่าการพูด เพราะการอ่านในเรื่องใดๆก็แล้วแต่
เราจะต้องใช้เวลาในการอ่าน การแปลความหมาย การฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง
รวมทั้งการทำความเข้าใจในเนื้อหาเป็นอย่างดี จึงจะรู้และเข้าใจในเรื่องที่อ่าน
และสามารถอ่านได้คล่องแคล่ว ไม่ติดขัด ฉะนั้นดิฉันจึงตัดสินใจฝึกทักษะการอ่าน
ตั้งแต่วันอังคารที่ 1 กันยายน 2558 – วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2558 และใช้บทความ 1 เรื่องในการฝึก 1 วันและอีกหนึ่งวันใช้สำหรับการอ่านทบทวนบทความเรื่องเดิมอีกครั้ง
วันอังคารที่ 1- วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากการอ่านบทความภาษาอังกฤษ เรื่อง What is global warming? จาก http://www.ddtranslation.com/eng-to-thai-1/ เหตุผลที่เลือกอ่านบทความนี้ เพราะว่า มีเนื้อหาที่น่าสนใจและใช้คำศัพท์ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย
และเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกคนควรรู้ด้วย ซึ่งดิฉันได้ฝึกอ่านออกเสียงในตอนแรก ฝึกอ่านไปเรื่อยๆซ้ำๆหลายครั้ง
โดยที่ไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์แต่ละคำอ่านว่าอย่างไรและมีความหมายว่าอย่างไร
ดิฉันถือว่าได้ฝึกการพูดไปด้วยอีกทางหนึ่ง
จากนั้นดิฉันก็เริ่มหาว่าคำศัพท์แต่ละคำอ่านว่าอย่างไร
ออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้องตามหลักการ รวมทั้งหาความหมายของคำศัพท์ทุกคำที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้ความหมายด้วย
หลังจากนั้นดิฉันก็มาเริ่มอ่านบทความดังกล่าวนี้อีก
โดยอ่านไปที่ละประโยคและแปลความหมายของแต่ละประโยคด้วย
ดิฉันก็อ่านไปเรื่อยๆจนจบก็แปลได้ว่า บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เรื่อง
ความหมายของคำว่า “ภาวะโลกร้อน” ภาวะโลกร้อน
คือ การที่โลกร้อนขึ้น (อุณหภูมิสูงขึ้น) เกิดขึ้นเมื่อก๊าซเรือนกระจก
(คาร์บอนไดออกไซด์, ไอน้ำ, ไนตรัสออกไซด์
และมีเทน) ดักจับความร้อน
และแสงจากดวงอาทิตย์ในชั้นบรรยากาศของโลกซึ่งทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น และทำร้ายคน,
สัตว์ และพืชเป็นจำนวนมาก รวมทั้งความหมายของคำว่า “ปรากฏการณ์เรือนกระจก ” คือ
การที่อุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจากความร้อนและแสงอาทิตย์ถูกดักจับไว้ในชั้นบรรยากาศของโลกรวมทั้งสิ่งที่ปรากฏการณ์เรือนกระจกมีผลกระทบต่อโลก
ซึ่งคือการที่ความร้อนและแสงจากดวงอาทิตย์เข้ามายังชั้นบรรยากาศแต่ไม่สามารถกลับออกไปได้
และส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น และต่อมาในวันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ.2558
ดิฉันก็นำบทความเรื่องนี้มาอ่านอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการทดสอบการอ่านและการแปลความหมายของดิฉันกับเนื้อเรื่องดังกล่าว
การฝึกอ่านเป็นสิ่งที่ยากและต้องใช้เวลาในการฝึกมากกว่าการฟังและการพูดฉะนั้น
ในการฝึกแต่ละครั้งของสัปดาห์นี้ ดิฉันจะใช้เวลาสองวันในการฝึก คือวันแรกฝึก
และวันที่ 2 กลับมาทบทวนอีกครั้ง
วันพฤหัสบดีที่ 3 – วันศุกร์ที่
4 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากการอ่านบทความภาษาอังกฤษเรื่อง
Benefits Of Passion Fruit จาก http://lasik- healthyforeyes.blogspot.
com/2012 /10/benefits-of-passion-fruit.html#.Veyoz9KeDGc เหตุผลที่ดิฉันเลือกอ่านบทความนี้เพราะมีเนื้อหาน่าสนใจ ใช้คำศัพท์ที่ไม่อยากจนเกินไป
ได้ฝึกทั้งทักษะการอ่านและการพูดไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งในตอนแรกดิฉันก็อ่านบทความนี้ไป
2-3 ครั้ง คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนั้นที่จริงแล้วต้องออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่
รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย หลังจากนั้นดิฉันก็เริ่มหาคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังอ่านออกเสียงไม่ถูกต้อง
และยังไม่รู้ความหมายของคำศัพท์นั้น เมื่อแปลเสร็จ ดิฉันก็เริ่มอ่านใหม่อีก
จากการอ่านและการแปลทำให้ทราบว่า เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ประโยชน์ของเสาวรส ดังนี้เสาวรสมีวิตามินเอค่อนข้างสูง
และสารแคโรทีนอยด์ จึงช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่งได้ด้วย
จากการศึกษาพบว่า วิตามินซีของน้ำเสาวรสจะมีมากกว่าที่พบในมะนาว
และพบสาร Albumin
homologous protein จากเมล็ด
สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ และยังมีสรรพคุณ ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
ลดไขมันในเส้นเลือด และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และต่อมาในวันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านการอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้
ซึ่งเกิดจากความเข้าใจและความเคยชินเพราะดิฉันอ่านหลายครั้งแล้ว
ก็ทำให้ดิฉันจำคำศัพท์และเนื้อเรื่องได้มากพอสมควรเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเนื้อหาภาษาไทยในบทความนี้
ซึ่งในที่นี้ดิฉันได้ฝึกทักษะการพูดไปด้วย
วันเสาร์ที่ 5 – วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความภาษาอังกฤษเรื่อง Chocolate for
Health and Beauty จาก http://www.dek-d.com/board/view/1150938/เหตุผลที่ดิฉันเลือกอ่านบทความนี้เพราะบทความนี้มีความน่าสนใจ
ใช้คำศัพท์ที่ดูแล้วน่าจะอ่านง่าย ไม่ยากจนเกินไป
ซึ่งในตอนแรกดิฉันก็อ่านบทความนี้ไป 3-4
ครั้ง คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนี้ที่จริงแล้วต้องออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่ รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย
เพราะนี่ก็เป็นบทความเรื่องที่สามที่ดิฉันใช้ฝึกทักษะการอ่าน
จากนั้นดิฉันก็ทำเหมือนกับสองครั้งที่ฝึกทักษะการอ่านมา คือ
เริ่มหาคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่ทราบความหมายของคำศัพท์เหล่านั้น
รวมทั้งยังไม่ทราบว่าคำศัพท์คำนั้นออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และเมื่อหาคำศัพท์และแปลความหมายเสร็จ ดิฉันก็เริ่มอ่านใหม่
ซึ่งสังเกตได้ชัดเจนว่าดิฉันอ่านคล่องแคล่วมากขึ้น
ทั้งนี้เพราะดิฉันได้หาคำศัพท์และคำอ่านของคำศัพท์นั้นๆไว้
จึงทำให้มั่นใจในการอ่านแต่ละครั้งในสัปดาห์นี้ ซึ่งเรื่องนี้มีเนื้อหา เกี่ยวกับ ประโยชน์ของช็อกโกแลต
คือ สารฟลาโวนอยด์ที่มีอยู่ในช็อกโกแลตช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งบางชนิดและป้องกันไม่ให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจนอกจากนี้ยังเพิ่มการไหลเวียนของเลือดป้องกันความดันโลหิตสูงและยังช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้อีกด้วย
ส่วนสารทีโอโบรไมน์ (Theobromine)
มีฤทธิ์คล้ายกาเฟอีนช่วยหยุดอาการไอเรื้อรังได้ ส่วนสารเฟนิลไทลามิน
(Phenylethylamine) เชื่อว่าสามารถผลิตความรู้สึกที่เรียกว่ารักได้
จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558 ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านเนื้อหา
การอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้ ซึ่งเกิดจากความเข้าใจและความเคยชินเพราะดิฉันอ่านหลายครั้งแล้วและเริ่มมีทักษะในการอ่านมาพอสมควร
ก็ทำให้ดิฉันจำคำศัพท์และเนื้อเรื่องได้มากพอสมควรเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเนื้อหาภาษาไทยในบทความนี้
ซึ่งในที่นี้ดิฉันได้ฝึกทักษะการพูดไปด้วย
จากการฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์นี้ ตั้งแต่ วันอังคารที่
1- วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากการอ่านบทความภาษาอังกฤษ เรื่อง What is global warming? วันพฤหัสบดีที่ 3
– วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากการอ่านบทความภาษาอังกฤษเรื่อง Benefits Of Passion Fruit วันเสาร์ที่ 5 – วันอาทิตย์ที่ 6
กันยายน พ.ศ. 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความภาษาอังกฤษเรื่อง
Chocolate for
Health and Beauty
จากเนื้อหาทั้งหมดที่ใช้ในการฝึกนี้มีเนื้อหาที่ดีมากสำหรับการฝึกทักษะการอ่าน
มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และคำศัพท์ที่อ่านง่าย ซึ่งในตอนแรกดิฉันก็อ่านบทความนี้ไป
3-4 ครั้ง
คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนั้นที่จริงแล้วต้องอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
และทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่
รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย จากนั้นในวันที่สองของการฝึกอ่านบทความแต่ละบท ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านเนื้อหา
การอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้
ซึ่งเกิดจากความเข้าใจและความเคยชินเพราะดิฉันอ่านหลายครั้งแล้วและเริ่มมีทักษะในการอ่านมาพอสมควร
ซึ่งการฝึกทักษะการอ่านเป็นการฝึกทักษะที่ต้องใช้เวลาในการฝึกเป็นอย่างมากในการทำความเข้าใจและเกิดความคล่องแคล่วในการอ่านแต่ละครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น