การฝึกทักษะการอ่าน
(8th September, 2015)
การฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดิฉันก็ประสบความสำเร็จมากพอสมควร แต่ทั้งนี้เพราะ
การฝึกทักษะการอ่านนั้นจะใช้เวลาเป็นอย่างมากในการฝึก
ในการแปลความหมายและค้นหาคำศัพท์ยากที่เราไม่รู้มาก่อน
รวมทั้งจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนในการอ่านให้คล่องแคล่ว ราบรื่น ไม่ติดขัด
ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความต่างๆ ดังนี้ 1. บทความภาษาอังกฤษเรื่อง What is global warming?,
2. บทความภาษาอังกฤษเรื่อง Benefits
Of Passion Fruit และบทความที่ 3 คือ
บทความภาษาอังกฤษ เรื่อง Chocolate for Health and
Beauty ซึ่งในช่วงแรกของการฝึก
ดิฉันก็อ่านบทความเหล่านี้ไป 3-4 ครั้ง คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนั้นที่จริงแล้วต้องอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะว่าดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
และทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่
รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย จากนั้นในวันที่สองของการฝึกอ่านบทความแต่ละบท
ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านเนื้อหา
การอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้
รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนทักษะในการอ่านของดิฉันด้วย เพราะฉะนั้น
การฝึกฝนทักษะการอ่านให้เกิดความชำนาญและเกิดความคล่องแคล่วนั้นจะต้องใช้เวลาในการฝึกเป็นอย่างมาก
ในสัปดาห์นี้ดิฉันจึงฝึกทักษะการอ่านอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความชำนาญและความคล่องแคล่วในการอ่าน
รวมทั้งถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ในการฝึกฝนด้วย ซึ่งดิฉันได้ฝึกตั้งแต่วันอังคารที่
8 กันยายน 2558
– วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2558 และใช้บทความ 1 เรื่องในการฝึก 1 วันและอีกหนึ่งวันใช้สำหรับการอ่านทบทวนบทความเรื่องเดิมอีกครั้ง
วันพฤหัสบดีที่ 10 – วันศุกร์ที่ 11 กันยายน
พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความเรื่อง 10
Things You Can Do to Help Save the Earth จาก http://science.howstuffworks.com/
environmental/
green-science/save-earth-top-ten.htm ซึ่งเป็นบทความที่มีภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว
เหตุผลที่ดิฉันเลือกอ่านบทความนี้ คือ บทความนี้มีเนื้อหาน่าสนใจ
คำศัพท์ที่ใช้ก็ดูแล้วน่าจะไม่ยากจนเกินไป ซึ่งในครั้งที่ผ่านมา
ดิฉันได้ฝึกบทความภาษาอังกฤษที่มีการแปลภาษาไทยได้ด้วย ฉะนั้น
วันนี้ดิฉันจึงอยากลองฝึกบทความที่ไม่มีการแปลภาษาไทยไว้เลย ซึ่งในช่วงแรกของการฝึกดิฉันจะอ่านบทความนี้อย่างคร่าวๆก่อน3 –
4 รอบ โดยที่ไม่มีการแปลความหมายของคำศัพท์
และค้นหาว่าคำศัพท์ดังกล่าวอ่านออกเสียงว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง
หลังจากนั้นเมื่อดิฉันอ่านครบ 3 รอบแล้ว
จึงเริ่มอ่านแบบจริงจัง
เริ่มจากการค้นหาคำศัพท์ว่าคำศัพท์ยากที่ดิฉันไม่รู้นั้นมีความหมายว่าอย่างไร
รวมทั้งอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง เมื่อแปลเสร็จก็ได้ว่า เรื่องนี้
เกี่ยวกับ 10 อย่างที่เราสามารถทำได้ในการรักษาโลกของเรา คือ
1).ให้ความสนใจหรือใส่ใจในวิธีการใช้น้ำของคุณ ก็คือ
รู้จักใช้น้ำอย่างประหยัด 2). ไม่ควรนำรถออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น
ถ้าระยะทางในการเดินทางใกล้หรือถ้าเราสะดวกไปพร้อมกับผู้อื่น หรือไปรถโดยสาร 3). ใช้วิธีการเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงานหรือ ไปโรงเรียน
รวมทั้งไปในสถานที่อื่นๆ ในกรณีที่มีระยะทางไม่มากจนเกินไป 4).
นำสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วมาทำให้เกิดประโยชน์หรือนำมาสร้างเป็นชิ้นงานใหม่
เพื่อการใช้งานใหม่อีกครั้ง 5).
ลดปริมานของเสียที่เป็นขยะโดยการนำมาผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยธรรมชาติ
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างมาก 6).
เปลี่ยนหลอดไฟของคุณให้เป็นหลอดไฟนีออนขนาดกะทัดรัด
เพราะจะช่วยประหยัดพลังงานในการจ่ายไฟฟ้า 7).
ควรจะประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน โดยการใช้พลังงานและทรัพยากรต่างๆให้น้อยที่สุด 8). ตรวจเช็คและรักษายางล้อรถของคุณ ซึ่งจะช่วยลดการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละสามและนำไปสู่การลดมลพิษที่เพิ่มขึ้นและสูงกว่าปล่อยก๊าซเรือนกระจก
9). ขับรถอย่างช้าและระมัดระวัง ซึ่งการขับอย่างช้าๆ
จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันด้วย 10).
ปิดไฟทุกครั้งเมื่อคุณออกจากห้องหรือที่พัก และถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
ซึ่งทั้ง 10 วิธีดังกล่าวนี้เป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนสารถมาทำได้
จากนั้น ในวันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2558
ดิฉันก็ได้นำบทความดังกล่าวนี้มาฝึกการอ่านอีกครั้งเพื่อเป็นการฝึกการอ่านและการทำความเข้าใจในด้านของคำศัพท์และเนื้อหาด้วย
วันเสาร์ที่ 12
– วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความภาษาอังกฤษ เรื่อง Workout
Routines for Women จาก http://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e. com/...workout-routines-for-women/ เหตุผลที่ดิฉันเลือกฝึกทักษะการอ่านจากบทความนี้ คือ
เป็นบทความที่มีเนื้อหาน่าสนใจ นอกจากจะได้ฝึกทักษะแล้วยังได้ความรู้ต่างๆมากมายอีกด้วย
บทความนี้ไม่มีการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
เพราะเนื้อหาสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ในช่วงแรกของการฝึก
ดิฉันอ่านบทความนี้อย่างคร่าวๆ 2 – 3 ครั้ง
เหมือนกับการฝึกการอ่านบทความอื่นๆที่ผ่านมา คือ ไม่ได้มุ่งที่จะทำความเข้าใจในความหมายของคำศัพท์และเนื้อเรื่อง
รวมทั้งการอ่านออกเสียงคำศัพท์ด้วย เพียงแต่อ่านเฉยๆ
จากนั้นดิฉันก็เริ่มหาความหมายของคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้รวมทั้งฝึกอ่านออกเสียงคำศัพท์ต่างๆให้ถูกต้องด้วย
ซึ่งดิฉันแปลเรื่องนี้ได้ว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันการออกกำลังกายของผู้หญิง
วิธีการออกกำลังกายให้พอดีในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นออกกำลังกายเป็นประจำมักจะสามารถสร้างความท้าทายใหม่
ๆ จะดีกว่าการออกกำลังกายสำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ (อาจจะ 10 นาที) นอกจากนี้หากไม่ได้ออกกำลังกายได้ตามปกติแล้ว
คุณยังอาจพบว่ากล้ามเนื้อของคุณปวดเพราะการทำงานที่แตกต่างกันของกล้ามเนื้อในการออกกำลังกายทุกวัน
และข้อเสนอแนะในการออกกำลังกายต่างๆที่ควรรู้ วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาฝึกการอ่านอีกครั้ง
เพื่อเป็นการทบทวนความจำในเรื่องคำศัพท์และการทำความเข้าใจในเนื้อหาดังกล่าวอีกครั้ง
รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนทักษะในการอ่านมากยิ่งขึ้น
จากการฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์นี้
ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 กันยายน 2558 – วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2558 ดิฉันได้ฝึกการอ่านจาก บทความทั้ง 3 เรื่อง คือ วันอังคารที่ 8 – วันพุธที่
9 กันยายน พ.ศ.2558
ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความ
เรื่อง Drinking water before meals helps dietin, วันพฤหัสบดีที่ 10 – วันศุกร์ที่ 11
กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความ เรื่อง 10 Things You Can Do to Help Save the
Earth และ วันเสาร์ที่ 12 – วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความ เรื่อง Workout Routines for Women ซึ่งทั้ง 3 บทความมีเนื้อหาที่น่าสนใจและน่าอ่านมาก
อีกทั้งคำศัพท์ส่วนใหญ่เป็นคำศัพท์ที่อ่านง่ายและเข้าใจง่าย ซึ่งในตอนแรกดิฉันก็อ่านบทความนี้ไปประมาณเรื่องละ
3-4 ครั้ง
คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนั้นที่จริงแล้วต้องอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
และทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์ที่
2 แล้ว
รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย จากนั้นในวันที่สองของการฝึกอ่านบทความแต่ละบท
ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านเนื้อหา
การอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้
ซึ่งดิฉันได้รับทั้งความรู้ต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นทั้งความรู้ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้
และความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียน และที่สำคัญที่สุด
ดิฉันได้พัฒนาการอ่านของดิฉันได้มากพอสมควร
เพราะสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สองของการฝึก
จึงมีทักษะเพิ่มขึ้นมากจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เราจะเกิดความชำนาญและคล่องแคล่วในทักษะการอ่านได้
เราจะต้องมีการฝึกอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
จะได้เป็นการพัฒนาทักษะของเราอยู่ตลอดเวลาและจะทำให้มีความชำนาญ เกิดความเคยชิน
และมีความแม่นยำในสิ่งที่เราอ่านมากขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น