วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

การศึกษานอกห้องเรียน (8th September 2015)

                                                          การฝึกทักษะการอ่าน
                                            (8th  September, 2015)
การฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันก็ประสบความสำเร็จมากพอสมควร แต่ทั้งนี้เพราะ การฝึกทักษะการอ่านนั้นจะใช้เวลาเป็นอย่างมากในการฝึก ในการแปลความหมายและค้นหาคำศัพท์ยากที่เราไม่รู้มาก่อน รวมทั้งจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนในการอ่านให้คล่องแคล่ว ราบรื่น ไม่ติดขัด ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความต่างๆ ดังนี้ 1. บทความภาษาอังกฤษเรื่อง What is global warming?, 2. บทความภาษาอังกฤษเรื่อง Benefits Of Passion Fruit และบทความที่ 3 คือ บทความภาษาอังกฤษ เรื่อง Chocolate for Health and Beauty ซึ่งในช่วงแรกของการฝึก ดิฉันก็อ่านบทความเหล่านี้ไป 3-4 ครั้ง คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนั้นที่จริงแล้วต้องอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะว่าดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง และทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่ รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย จากนั้นในวันที่สองของการฝึกอ่านบทความแต่ละบท ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านเนื้อหา การอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้ รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนทักษะในการอ่านของดิฉันด้วย เพราะฉะนั้น การฝึกฝนทักษะการอ่านให้เกิดความชำนาญและเกิดความคล่องแคล่วนั้นจะต้องใช้เวลาในการฝึกเป็นอย่างมาก ในสัปดาห์นี้ดิฉันจึงฝึกทักษะการอ่านอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความชำนาญและความคล่องแคล่วในการอ่าน รวมทั้งถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ในการฝึกฝนด้วย ซึ่งดิฉันได้ฝึกตั้งแต่วันอังคารที่ 8  กันยายน 2558 – วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2558 และใช้บทความ 1 เรื่องในการฝึก 1 วันและอีกหนึ่งวันใช้สำหรับการอ่านทบทวนบทความเรื่องเดิมอีกครั้ง
              วันอังคารที่ 8 – วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจาก บทความเรื่อง Drinking water before meals helps dieting จาก https://www.gotoknow.org/posts/476253 ซึ่งเป็นบทความที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เหตุผลที่ดิฉันเลือกบทความนี้ในการฝึกทักษะการอ่าน คือ มีเนื้อหาที่น่าสนใจมาก มีประโยชน์สำหรับการอ่านเพื่อรับความรู้ ดิฉันเลือกที่มีแปลภาษาไทยไว้ด้วยเพราะ เมื่อดิฉันอ่านและแปลในรอบที่สองเหมือนครั้งก่อนๆที่ดิฉันฝึกมา ดิฉันก็สามารถนำมาเปรียบเทียบเนื้อหาว่าที่ดิฉันแปลนั้นถูกต้องมากเพียงใด จากฉบับแปลในบทความ ในช่วงแรกดิฉันเริ่มอ่านบทความภาษาอังกฤษไป 2-3 ครั้ง โดยอ่านไปเรื่อยๆ ไม่เน้นว่าออกเสียงถูกหรือไม่ และคำศัพท์ที่อ่านไปบางคำที่เป็นศัพท์ยากก็ไม่ทราบความหมายเช่นกัน จากนั้นดิฉันก็เริ่มแปลความหมายของคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้ความหมาย และอ่านออกเสียงคำๆนั้นยังไม่ถูกต้อง ดิฉันก็แปลความหมายได้ว่า ผลการศึกษาวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การดื่มน้ำก่อนอาหารสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากน้ำไม่มีแคลอรี่และการดื่มน้ำทำให้เรารู้สึกอิ่ม นักวิจัยจากรัฐ Virginia พบว่าหากดื่มน้ำสองแก้วก่อนอาหาร จำนวนสามครั้งต่อวันจะช่วยลดน้ำหนักลงได้เฉลี่ย 5 ปอนด์ และจากการศึกษาก่อนหน้านี้ก็พบว่าคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุที่มีการดื่มน้ำสองแก้วก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยให้ร่างกายได้รับแคลอรี่ในอาหารในมื้อนั้นๆลดลงไปประมาณ 75- 90 แคลอรี่ ซึ่งเมื่อดิฉันนำไปเปรียบเทียบกับเนื้อหาของบทความฉบับภาษาไทยที่มีอยู่ ก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับที่ดิฉันแปลไว้พอสมควร ซึ่งทำให้ฝีกการแปลภาษาด้วย และยังได้ความรู้เกี่ยวกับการดื่มน้ำก่อนอาหารจะช่วยลดน้ำหนักด้วย ในวันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาฝึกทักษะการอ่านอีกครั้ง เพื่อเป็นการทบทวนความจำในด้านคำศัพท์และเนื้อหา รวมทั้งพัฒนาทักษะในการอ่านด้วยเพราะเริ่มเข้าใจและคล่องแคล่วในเนื้อหาดังกล่าวแล้ว
               วันพฤหัสบดีที่ 10 – วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความเรื่อง 10 Things You Can Do to Help Save the Earth จาก http://science.howstuffworks.com/ environmental/     green-science/save-earth-top-ten.htm ซึ่งเป็นบทความที่มีภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว เหตุผลที่ดิฉันเลือกอ่านบทความนี้ คือ บทความนี้มีเนื้อหาน่าสนใจ คำศัพท์ที่ใช้ก็ดูแล้วน่าจะไม่ยากจนเกินไป ซึ่งในครั้งที่ผ่านมา ดิฉันได้ฝึกบทความภาษาอังกฤษที่มีการแปลภาษาไทยได้ด้วย ฉะนั้น วันนี้ดิฉันจึงอยากลองฝึกบทความที่ไม่มีการแปลภาษาไทยไว้เลย ซึ่งในช่วงแรกของการฝึกดิฉันจะอ่านบทความนี้อย่างคร่าวๆก่อน3 – 4 รอบ โดยที่ไม่มีการแปลความหมายของคำศัพท์ และค้นหาว่าคำศัพท์ดังกล่าวอ่านออกเสียงว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง หลังจากนั้นเมื่อดิฉันอ่านครบ 3 รอบแล้ว จึงเริ่มอ่านแบบจริงจัง เริ่มจากการค้นหาคำศัพท์ว่าคำศัพท์ยากที่ดิฉันไม่รู้นั้นมีความหมายว่าอย่างไร รวมทั้งอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง เมื่อแปลเสร็จก็ได้ว่า เรื่องนี้ เกี่ยวกับ 10 อย่างที่เราสามารถทำได้ในการรักษาโลกของเรา คือ 1).ให้ความสนใจหรือใส่ใจในวิธีการใช้น้ำของคุณ ก็คือ รู้จักใช้น้ำอย่างประหยัด 2). ไม่ควรนำรถออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น ถ้าระยะทางในการเดินทางใกล้หรือถ้าเราสะดวกไปพร้อมกับผู้อื่น หรือไปรถโดยสาร 3). ใช้วิธีการเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงานหรือ ไปโรงเรียน รวมทั้งไปในสถานที่อื่นๆ ในกรณีที่มีระยะทางไม่มากจนเกินไป 4). นำสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วมาทำให้เกิดประโยชน์หรือนำมาสร้างเป็นชิ้นงานใหม่ เพื่อการใช้งานใหม่อีกครั้ง 5). ลดปริมานของเสียที่เป็นขยะโดยการนำมาผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างมาก 6). เปลี่ยนหลอดไฟของคุณให้เป็นหลอดไฟนีออนขนาดกะทัดรัด เพราะจะช่วยประหยัดพลังงานในการจ่ายไฟฟ้า 7). ควรจะประหยัดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน โดยการใช้พลังงานและทรัพยากรต่างๆให้น้อยที่สุด 8). ตรวจเช็คและรักษายางล้อรถของคุณ ซึ่งจะช่วยลดการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละสามและนำไปสู่การลดมลพิษที่เพิ่มขึ้นและสูงกว่าปล่อยก๊าซเรือนกระจก 9). ขับรถอย่างช้าและระมัดระวัง ซึ่งการขับอย่างช้าๆ จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันด้วย 10). ปิดไฟทุกครั้งเมื่อคุณออกจากห้องหรือที่พัก และถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน ซึ่งทั้ง 10 วิธีดังกล่าวนี้เป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนสารถมาทำได้ จากนั้น ในวันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันก็ได้นำบทความดังกล่าวนี้มาฝึกการอ่านอีกครั้งเพื่อเป็นการฝึกการอ่านและการทำความเข้าใจในด้านของคำศัพท์และเนื้อหาด้วย
                วันเสาร์ที่ 12 – วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความภาษาอังกฤษ เรื่อง Workout Routines for Women จาก http://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.                                           com/...workout-routines-for-women/ เหตุผลที่ดิฉันเลือกฝึกทักษะการอ่านจากบทความนี้ คือ เป็นบทความที่มีเนื้อหาน่าสนใจ นอกจากจะได้ฝึกทักษะแล้วยังได้ความรู้ต่างๆมากมายอีกด้วย บทความนี้ไม่มีการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย เพราะเนื้อหาสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ในช่วงแรกของการฝึก ดิฉันอ่านบทความนี้อย่างคร่าวๆ 2 – 3 ครั้ง เหมือนกับการฝึกการอ่านบทความอื่นๆที่ผ่านมา คือ ไม่ได้มุ่งที่จะทำความเข้าใจในความหมายของคำศัพท์และเนื้อเรื่อง รวมทั้งการอ่านออกเสียงคำศัพท์ด้วย เพียงแต่อ่านเฉยๆ จากนั้นดิฉันก็เริ่มหาความหมายของคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้รวมทั้งฝึกอ่านออกเสียงคำศัพท์ต่างๆให้ถูกต้องด้วย ซึ่งดิฉันแปลเรื่องนี้ได้ว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันการออกกำลังกายของผู้หญิง วิธีการออกกำลังกายให้พอดีในชีวิตประจำวัน เริ่มต้นออกกำลังกายเป็นประจำมักจะสามารถสร้างความท้าทายใหม่ ๆ จะดีกว่าการออกกำลังกายสำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ (อาจจะ 10 นาที) นอกจากนี้หากไม่ได้ออกกำลังกายได้ตามปกติแล้ว คุณยังอาจพบว่ากล้ามเนื้อของคุณปวดเพราะการทำงานที่แตกต่างกันของกล้ามเนื้อในการออกกำลังกายทุกวัน และข้อเสนอแนะในการออกกำลังกายต่างๆที่ควรรู้ วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาฝึกการอ่านอีกครั้ง เพื่อเป็นการทบทวนความจำในเรื่องคำศัพท์และการทำความเข้าใจในเนื้อหาดังกล่าวอีกครั้ง รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนทักษะในการอ่านมากยิ่งขึ้น

                จากการฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์นี้ ตั้งแต่วันอังคารที่ 8  กันยายน 2558 – วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน 2558 ดิฉันได้ฝึกการอ่านจาก บทความทั้ง 3 เรื่อง คือ  วันอังคารที่ 8 – วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความ เรื่อง  Drinking water before meals helps dietin, วันพฤหัสบดีที่ 10 – วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ.2558  ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความ เรื่อง 10 Things You Can Do to Help Save the Earth และ วันเสาร์ที่ 12 – วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ.2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการอ่านจากบทความ เรื่อง Workout Routines for Women ซึ่งทั้ง 3 บทความมีเนื้อหาที่น่าสนใจและน่าอ่านมาก อีกทั้งคำศัพท์ส่วนใหญ่เป็นคำศัพท์ที่อ่านง่ายและเข้าใจง่าย ซึ่งในตอนแรกดิฉันก็อ่านบทความนี้ไปประมาณเรื่องละ 3-4 ครั้ง คืออ่านโดยไม่ได้ค้นหาว่าคำศัพท์คำนั้นที่จริงแล้วต้องอ่านออกเสียงอย่างไรถึงจะถูกต้อง และคำศัพท์ยากแต่ละคำที่ดิฉันยังไม่รู้ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง เพราะดิฉันจะลองฝึกทักษะการอ่านของดิฉันว่าเป็นอย่างไรบ้าง และทดสอบความจำเกี่ยวกับคำศัพท์ต่าง ๆในสมองว่ามีเท่าไหร่ซึ่งเป็นการฝึกทักษะการอ่านในสัปดาห์ที่ 2 แล้ว รวมทั้งการอ่านในลักษณะนี้จะเป็นการฝึกการพูดไปในตัวด้วย จากนั้นในวันที่สองของการฝึกอ่านบทความแต่ละบท ดิฉันได้นำบทความดังกล่าวนี้มาอ่านทบทวนใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นการทดสอบความจำทางด้านเนื้อหา การอ่านออกเสียงคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ยากที่ดิฉันยังไม่รู้ ซึ่งดิฉันได้รับทั้งความรู้ต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นทั้งความรู้ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียน และที่สำคัญที่สุด ดิฉันได้พัฒนาการอ่านของดิฉันได้มากพอสมควร เพราะสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สองของการฝึก จึงมีทักษะเพิ่มขึ้นมากจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เราจะเกิดความชำนาญและคล่องแคล่วในทักษะการอ่านได้ เราจะต้องมีการฝึกอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะได้เป็นการพัฒนาทักษะของเราอยู่ตลอดเวลาและจะทำให้มีความชำนาญ เกิดความเคยชิน และมีความแม่นยำในสิ่งที่เราอ่านมากขึ้นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น